ในสถานการณ์ที่ปัจจัยแวดล้อมการลงทุนไม่เป็นใจและตลาดหุ้นตกหนัก ถือว่าเป็นเวลาอันดีอีกครั้งที่นักลงทุนควรจะมาทบทวนหลักการลงทุน ว่าการให้ “เวลา” กับการลงทุนในระยะยาวสำคัญมากแค่ไหน และจะช่วยนักลงทุนผ่านพ้นจุดแย่สุดไปได้อย่างไร เพราะการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปตลอด ไม่เหมือนการพนัน แทวบอล พนันออนไลน์88 ที่จะมีกติกาเหมือนเดิม และอัตราการจ่ายกับความเสี่ยงเท่าเดิมตลอด
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าเงินที่นำมาลงทุนควรเป็นเงินเย็น หรืออีกนัยหนึ่งคือไม่มีแผนจะใช้ เงินที่จะใช้ในระยะสั้นคือเงินหมุน เงินที่จะใช้ในเวลาข้างหน้าที่ไม่สั้นมากคือเงินออม แต่เงินที่แทบจะไม่มีแผนต้องใช้เลยคือ เงินลงทุน ดังนั้น เราหาเงินไม่ใช่เพื่อจะนำเงินไปใช้เป็นหลัก แต่เราหาเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ซึ่งอาจจะมีผลตอบแทนออกมาในรูปกระแสเงินสดบ้าง แต่ไม่ใช่กระทบกับต้นทุนทั้งก้อน
สิ่งสำคัญคือ เงินก็มีค่า หุ้นก็มีค่า ไม่ใช่ว่าถือหุ้นแล้วต้องขายออกมาเป็นเงินสดเท่านั้น ผมแนะนำให้มองว่าเงินสดคือสินทรัพย์ผลตอบแทนต่ำ และหุ้นคือสินทรัพย์ผลตอบแทนสูง เราอาจมีการปรับจัดดัดแปลงบ้างตามความเหมาะสม แต่ไม่ใช่เพื่อใช้ สินทรัพย์เหล่านี้เพื่อหาผลตอบแทน
จะเห็นว่าถ้าเราลงทุนระยะเวลา 1 ปี ในอดีตที่ผ่านมาอาจเคยได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึง +56.4% ต่อปีเลยทีเดียว และโดยเฉลี่ยๆ ให้ตอบแทนประมาณ 10.1% ต่อปี อย่างไรก็ตาม ความผันผวนเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ในการลงทุนระยะสั้น เพราะหากลงทุนระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี จะมีโอกาสที่ผลตอบแทนจะเป็นลบ สูงถึง 18.7% (ลงทุน 100 ครั้ง เกิดผลตอบแทนเป็นลบ ~19 ครั้ง) อีกถ้าลงทุนระยะสั้นแค่ปีเดียวมีผลตอบแทนต่ำที่สุดที่เคยเกิด คือ -43.3% ต่อปี เลยทีเดียว
ลงทุนด้วยระยะเวลา 5 ปี
โอกาสผลตอบแทนเป็นลบเหลือ -8.1% (ลงทุน 100 ครั้ง เกิดผลตอบแทนเป็นลบ 8 ครั้ง)
ผลตอบแทนต่ำที่สุดที่เคยเกิด คือ -6.6% ต่อปี (คิดเป็นผลตอบแทนรวม -29%)
โดยเฉลี่ยให้ตอบแทนประมาณ 10.0% ต่อปี (คิดเป็นผลตอบแทนรวม 60.7%)
ลงทุนด้วยระยะเวลา 10 ปี
โอกาสผลตอบแทนเป็นลบเหลือ 0% (ลงทุน 100 ครั้ง เกิดผลตอบแทนเป็นลบ 0 ครั้ง)
ผลตอบแทนต่ำที่สุดที่เคยเกิด คือ +1.3% ต่อปี (คิดเป็นผลตอบแทนรวม 14%)
โดยเฉลี่ยให้ตอบแทนประมาณ 9.9% ต่อปี (คิดเป็นผลตอบแทนรวมสูงถึง 156%)
สรุปประเด็นสำคัญจากข้อมูลนี้ได้ว่า สิ่งที่จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างนักลงทุนในภาวะที่ตลาดไม่เป็นใจ ก็คือ การให้ “ระยะเวลา” ในการลงทุนที่ยาวขึ้น ด้วยการใช้ “เงินเย็น” ที่ได้จัดสรรปันส่วนออกจากค่าใช้ประจำมาแล้ว พร้อมที่จะลงทุนระยะยาวได้ 5 ปี 10 ปี ขึ้นไป สิ่งนี้ก็จะพานักลงทุนรอดพ้นจากภาวะวิกฤตไปได้ ลดโอกาสการขาดทุน พร้อมเพิ่มโอกาสที่จะคาดหวังผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ มาถึงตรงนี้ก็ขอให้นักลงทุนทุกท่านเตรียมความพร้อมและเดินทางผ่านช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายลงทุนไปพร้อมๆ กัน